
การถ่ายภาพ เป็นงานอดิเรกที่คุ้มค่าที่สามารถกลายเป็นความหลงใหลไปตลอดชีวิต
ประโยคนี้ผมคอนเฟิร์มด้วยประสบการณ์ผมเองจากที่คนที่ไม่เข้าใจงานศิลปะเลย จนทำเป็นอาชีพปัจจุบันนี้ เสียเวลาลองผิดลองถูกมาเยอะ ส่วนใหญ่มักจะผิดมากกว่า ดังนั้นบทความนี้เป็นคำแนะนำให้กับคนที่กำลังเริ่มต้นถ่ายภาพได้เริ่มต้นได้ถูกทิศถูกทางมากขึ้น
1. ทำความรู้จักกับกล้องของตัวเอง
ในช่วงฝึกถ่ายภาพไม่ว่าจะใช้มือถือหรือกล้องดิจิตอล เราจำเป็นต้องฝึกใช้ให้คล่องให้ได้ แนะนำให้ทำความคุ้นเคยในการควบคุมกล้องพื้นฐาน เช่น โฟกัส ซูม และค่าการปร้บแสงต่าง ๆ
2. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับค่าการรับแสงทั้ง 3 ค่า (Speed Shutter, ISO, F-Stop)
ค่าการรับแสงประกอบด้วย 3 ค่าด้วยกัน คือ ค่ารูรับแสง(ค่า f-stop), ความเร็วชัตเตอร์ (Shutter Speed) และ ISO ที่ทำงานร่วมกันเพื่อควบคุมปริมาณแสงที่เข้าสู่กล้องและผลลัพธ์ในรูปแบบต่าง ๆ
-
รูรับแสง (F-Stop)
ควบคุมขนาดของช่องเปิดในเลนส์ที่แสงผ่านเข้ามา
- ค่า F ที่ต่ำ หมายถึงช่องเปิดที่ใหญ่ขึ้นและแสงสว่างที่มากขึ้น
- ในขณะที่ค่า F ที่สูงกว่า หมายถึงช่องที่เล็กกว่าและแสงที่น้อยลง
-
ความเร็วชัตเตอร์ (Speed Shutter)
ควบคุมระยะเวลาที่ชัตเตอร์ของกล้องยังคงเปิดอยู่เพื่อให้แสงเข้าถึงเซ็นเซอร์
- ความเร็วชัตเตอร์ที่เร็วขึ้น (เช่น 1/500) จะหยุดการเคลื่อนไหว
- ในขณะที่ความเร็วที่ช้าลง (เช่น 1/30) สามารถสร้างภาพเบลอจากการเคลื่อนไหวได้
-
ISO
ควบคุมความไวแสงของเซนเซอร์กล้อง
- ISO ที่ต่ำ (เช่น 100) หมายถึง ความไวแสงที่น้อยลง แสงเข้าได้น้อย และเกิดสัญญาณรบกวนภาพน้อย
- ในขณะที่ ISO ที่สูงขึ้น (เช่น 3200) หมายถึงความไวที่มากขึ้น แสงเข้าได้มาก และสัญญาณรบกวนจะมากขึ้น
3. เรียนรู้พื้นฐานศิลปะการถ่ายภาพเป็นเรื่องสำคัญ
ภาพถ่ายที่ดีมักเกิดจากพื้นฐานศิลปะที่ดีเช่นเดียวกัน ตัวอย่างพื้นฐานศิลปะที่ฝึกฝน เช่น
-
แสง
แยกแสงแข็ง แสงนุ่ม และทิศทางให้ออก มองหาแสงที่ดีมีมิติให้ได้
-
สี
คุมโทน จับคู่สี ให้เป็นโทนใกล้เคียงกัน หรือจับคู่ให้มีความคอนทราสกัน
-
กฎสามส่วน
แบ่งเฟรมของคุณเป็นตารางขนาด 3×3 และวางวัตถุของคุณตามเส้นหรือที่จุดตัดเพื่อให้องค์ประกอบแบบสมดุลที่สุด
-
เส้นนำสายตา
ใช้เส้นธรรมชาติหรือเส้นที่มนุษย์สร้างขึ้นในกรอบของคุณเพื่อนำสายตาของผู้ชมไปยังตัวแบบของคุณ
-
การจัดเฟรม
ใช้องค์ประกอบในฉากเพื่อสร้างกรอบรอบๆ ตัวแบบ ดึงความสนใจมาที่ตัวแบบ
-
คุมฉากหลังให้เป็น
ใช้การซูมระยะแทนการเดินเข้าใกล้ตัวแบบ เพื่อลดความรกของฉากหลัง และพื้นฐานการถ่ายภาพเรื่องอื่นๆอีกมากมายที่มือใหม่จำเป็นต้องเรียนรู้
4. ฝึกฝน ฝึกฝน ฝึกฝน
ยิ่งฝึกถ่ายบ่อยเท่าไหร่ จะยิ่งเก่งขึ้นเท่านั้น อย่าฝึกถ่ายแค่ตอนไปเที่ยว แต่ให้ฝึกถ่ายทุกวัน ถ่ายสิ่งรอบ ๆ ตัวนี่แหละ หามุม หาตัวแบบที่น่าสนใจ ทดลองถ่ายตัวแบบกับสภาพแสงต่าง ๆ ฝึกการบาล๊านซ์การตั้งค่ากล้องให้ออกมาเหมาะสม การถ่ายภาพเป็นทักษะ ยิ่งฝึกบ่อยยิ่งชำนาญ
5. เรียนรู้จากผู้อื่น
การศึกษาผลงานของช่างภาพคนอื่น ๆ ทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น เพื่อหาแรงบันดาลใจและเรียนรู้เทคนิคใหม่ ๆ เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการพัฒนาอย่างมาก การเข้าสัมมนาหรือเวิร์คช็อปถ่ายภาพ ขอคำแนะนำจากผู้อื่น ก็ช่วยให้คุณเก่งขึ้นได้เช่นกัน
6. ยอมรับและเรียนรู้ที่จะปรับแต่งภาพหลังถ่ายเสร็จ
มันเป็นเรื่องยากมาก ๆ ที่จะถ่ายภาพออกมาแล้วสวยงาม เลิกยึดติดกับการจบหลังกล้อง หรือเลิกขี้เกียจแต่งภาพ แล้วเปิดใจเรียนรู้วิธีใช้โปรแกรมแต่งภาพ เช่น Adobe Lightroom หรือ Photoshop เพื่อปรับปรุงภาพที่เราถ่ายให้สวยงามยิ่งขึ้น
7. ลงทุนกับอุปกรณ์เพิ่มเติม
ถ้าคุณรู้สึกว่ามุมมองการถ่ายภาพเริ่มพัฒนาแล้ว ผมอยากให้พิจารณาลงทุนในอุปกรณ์เพิ่มเติม กล้อง เลนส์ ขาตั้งกล้อง หรือแฟลชเสริม เพื่อเพิ่มเครื่องมือในการสร้างสรรค์ผลงานให้ดียิ่งขึ้น ฝีมือดี แต่อุปกรณ์ไม่ถึง ก็ไปต่อได้ไม่สุด ฝึมือด้อย แต่อุปกรณ์ถึงที่ ก็พัฒนาไปต่อได้ไม่จำกัด
สิ่งสำคัญที่ผมอยากบอกคือ การถ่ายภาพเป็นศิลปะ มีอะไรอีกมากมายให้เรียนรู้อยู่เสมอ ผมถ่ายภาพมา 10 กว่าปี ยังมีอีกหลายเรื่องที่ผมยังไม่รู้ และอยากค้นพบอีกมาก ความอยากรู้ อยากเห็น อยากทดลองเป็นพลังงานที่ดีในการพัฒนาการถ่ายภาพ มันจะช่วยให้คุณสร้างสรรค์งานและค้นพบแนวทางที่เป็นตัวเอง

หากอยากเป็นคนที่มองสิ่งต่าง ๆ ได้หลายมุม อยากเป็นคนที่ถ่ายภาพอะไรก็สวย มาเรียนถ่ายภาพกับ Snappix สิครับ แล้วคุณจะมองเห็นโลกที่สวยงามกว่าเดิม คอร์สพื้นฐานการถ่ายภาพแบบเข้มข้ม Photo Habit Bootcamp รุ่นที่ 9 เปิดรับสมัครแล้ว ใครที่อยากพัฒนาทักษะการถ่ายภาพแต่ไม่มีพื้นฐานเลย คอร์สนี้ตอบโจทย์มือใหม่ที่ไม่เป็นเลยมาก ๆ ครับ